Last Love
Last Love เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นผลงานการเขียนเรื่องแรกของกระผม เนื้อเรื่องอาจไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมาก แต่มันเป็นเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของกระผมเอง ... นายเมืองตรัง
ผู้เข้าชมรวม
108
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
จากใจผู้เขียน
เรื่องสั้นเรื่องนี้ ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจจาก ภาพยนตร์ เรื่อง “เฟริสเลิฟ” ที่เพิ่งฉายไปในโรงภาพยนตร์เมื่อไม่นานนี้เอง ซึ่งกระผมมีความเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนต้องมีรักแรกและรักแรกส่วนใหญ่มักเกิดตอนสมัยตอนเรียนม.ปลาย แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่า รักสุดท้ายของเรา จะจบลงอย่างไร ลองอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ดูนะครับ แล้วคุณจะเข้าใจถึงหัวอกของคนที่ถูกบอกเลิกมากขึ้น
เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นการเขียนเรื่องแรกของกระผม มันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่เพอร์เฟค เลิศหรู อะไรมากนัก แต่กระผมก็ตั้งใจจะเล่าเรื่องราว ของเด็กวัยรุ่นผู้ชายที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นม.ปลายคนหนึ่ง ที่มีเชื่อในปาฏิหาริย์แห่งรักแท้ แต่เมื่อรักในวัยเรียนเข้ามาในชีวิต ซึ่งเป็นรักแรกของเขา รักแรกของเขาจะเป็นอย่างไร ใครคือแฟนคนแรกของเขา เขาพบรักกันได้ยังไง รักแรกของเขาจะยืนยาวไหม ความรักของเขาจะยืนยาวหรือไม่ เส้นทางชีวิตของเขาจะเป็นเช่นไร จะเป็นตามที่เขาวาดฝันไว้หรือไม่ ต้องไปอ่านติดตามกันครับ ผมต้องขอโทษด้วยหากเนื้อเรื่องเรื่องนี้มันน้ำเน่าเกินไป เพราะ เรื่องสั้นเรื่องเป็นผลงานการแต่งเรื่องแรกของผมครับ
เรื่องสั้นเรื่องนี้ได้แต่งขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาการเขียนในงานวารสารศาสตร์ เพื่อนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาตลอด1ภาคเรียนการศึกษามาใช้ในด้านงานนิเทศศาสตร์ เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงในชีวิตของกระผม แต่ได้มีการเสริมแต่ง เหตุการณ์ต่างๆเพื่อในเกิดอรรถรสแก่การอ่าน ไม่ได้มีเจตนาที่ทำให้บุคคลที่กระผมกล่าวถึงไปในทางที่เสียหาย หากเนื้อเรื่องที่กระผมได้แต่งขึ้นนี้ไปกระทบหรือพาดพิงกับบุคคลใดเข้า กระผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
นายเมืองตรัง
ผู้เขียน
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Last Love
ผมชื่อ ชิกเก้น ครับ ท่านผู้อ่านได้ยินชื่อผม คงคิดว่าผมเป็นลูกครึ่ง แต่จริงๆแล้วผมเป็นคนไทยแท้นี่แหละครับ ผิวไม่ได้ขาวเหมือนชาวต่างชาติหรอกครับ ผิวผมก็ดำๆคล้ำตามประสาคนภาคใต้ แต่เสือกชื่อ ชิกเก้น ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นม.4ครับ สถานะของผมน่ะเหรอ ไม่น่าถามเลยนะ ตอนนี้ผมโสดสนิทครับ ชีวิตในแต่ละวันของผมนอกจากเรียนแล้ว เลิกเรียนผมยังเล่นฟุตบอลทุกวันครับ ส่วนในตอนกลางคืนน่ะเหรอ ผมมักแชทhi5 คุยMSNกับผู้หญิงคนหนึ่งเธอชื่อ “บิวตี้” เด็กปทุมธานี ก่อนจะปิดท้ายด้วยการทำการบ้านพร้อมกับเปิดหนังที่เช่าดูและนี่แหละคือชีวิตในแต่ละวันของผม เขาว่ากันว่าโลกออนไลน์มีแต่เรื่องของการโกหก แต่สำหรับผมผมรู้สึกหลงรักบิวตี้ ตั้งแต่วันแรกที่เราเม้นhi5กัน ผมคุยกับบิวตี้ทุกวันนานนับเป็นปี เหมือนในหนังเรื่อง “ม.3ปี4 เรารักนาย” เลยก็ว่าได้ครับ คุยกันแบบนั้นเรื่อยๆ เป็นรักใสๆของเด็กวัยเรียน รักที่ไม่ได้คิดจริงจังอะไรมาก ผมคุยกับบิวตี้ทุกวัน จนกลายเป็นเพื่อนสนิททางโลกออนไลน์ไปแล้ว แต่บิวตี้คงไม่ได้คิดอะไรกับผมเกินคำว่า”เพื่อน.ที่เจอกันในโลกออนไลน์หรอก คุยไปคุยมา จากผมเรียนชั้นม.4สู่ชั้นม.5 บิวตี้ก็ขึ้นม.3 ผมคุยกับบิว ผ่านMSNทุกวัน จนบิวตี้กลายเป็นบุคคลสำคัญทางโลกออนไลน์ของผมไปเสียแล้ว จนเวลาผ่านไปอีก3เดือน บิวตี้ก็มีแฟนเสียไปแล้ว ผมรู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่ยึดติดอะไรมาก เพราะ การแอบรักผ่านโลกออนไลน์นั้น โอกาสที่จะไม่สมหวังนั้นมีสูงมาก หลังจากนั้นบิวตี้กับผมก็คุยกัน แต่คุยกันน้อยลง ผมเองก็ต้องตัดใจจากบิวตี้ เพราะไม่อยากทำให้บิวตี้กับแฟนต้องมีปัญหากัน หลังจากนั้นผมก็เริ่มทำตัวห่างจากบิวตี้เรื่อยๆ เหลือไว้เพียงแต่สถานะ เพื่อนทั่วไปทางโลกออนไลน์คนหนึ่ง
รักแรก
จนกระทั่งhi5 เว็ปไซต์ชื่อดังที่วัยรุ่นกำลังฮิตกันในตอนนี้ ทำให้ผมต้องสละโสด เมื่อผมได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อ “เมล์” ผมรู้จักเธอผ่านทางhi5และคุยแชทกันทางMSN ภายในเวลาแค่เดือนกว่าผมกับเธอก็ได้เป็นแฟนกัน เรียกได้ว่า เป็นเฟิร์สเลิฟของผมเลยก็ว่าได้ วันที่ 30 ธันวาคม 2556 เมล์ส่งข้อความมาหาผม “คืนพรุ่งนี้เราไปเคาว์ดาวน์ ไปป่ะล่ะ ชวนแล้วนะ” เมื่ออ่านข้อความนั้นเสร็จ ผมตอบข้อความกลับไปแบบไม่ต้องคิด ว่า ไปครับ เธอกล้าชวนเราก็กล้าไป” คืนวันที่31ธัญวา คืนส่งท้ายปี ผมลงทุนเดินจากบ้านไปหาเมล์ที่หอฬิกาซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเคาว์ดาวน์
กรี๊งๆ(เสียงโทรศัพท์) “ฮัลโหล ได้ออกมาป่าว เรามาถึงแล้วนะ ?”
“ได้ออกมาครับ อยู่ในงานแล้วครับ”
“นายอยู่แถวไหนอ่ะ ?”
“เราอยู่แถวหน้าตู้ไปรษณีย์ครับ ตรงหน้าร้านขายหนังสือ น่ะ”
“เราก็อยู่ตรงตู้ไปรษณีย์ นายอยู่ไหนเนี่ย คนเยอะอ่ะ ? ”
“เราอยู่ … น่ารักหว่ะ”
“เอ้า ตู๊ดๆ ๆ ๆ มานานยังอะ รอนานมั๊ย ?”
“ไม่นานหรอกครับ เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เองครับ”
“โทษที รถติดอะ ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นครับ”
“นายมายังเอาไง ขับรถมาเหรอ ?”
“เปล่าครับ เราเดินมาน่ะ รถเยอะ หาที่จอดรถยาก เลยเดินมาสะดวกกว่าครับ”
“แล้วเธอเอารถมาหรอเมล์ ?”
“เปล่าๆ แม่มาส่ง”
“แล้วกลับยังไงอ่ะ แม่มารับกลับหรือกลับเองอ่ะ?”
“แม่มารับ แล้วนายล่ะ จะกลับยังไง?”
“ที่บ้านมารับครับ”
“ไปหาที่คุยกันดีกว่ามั๊ย ตรงนี้คนเดินไปเดินมา เหมือนพวกเราขวางทางเค้ายังไงก็ไม่รู้”
“ครับ ไปตรงดีอะครับ?”
“ไปเดินดูของก่อนก็ได้ แล้วค่อยไปหาที่นั่งคุยกัน”
“ครับ”
เมล์เดินลากแขนผมเดินซื้อของกินในตลาดเคาว์ดาวน์ จากนั้นเมล์พาไปไหนนั่งที่ม้าหินอ่อนตรงบริเวณศาลากลางจังหวัด แม้คนจะพลุกพล่าน แต่ก็ไม่ได้เป็นก้างขวางคอ แต่ความรักของเรา ผมนั่งจับมือ คุยสนทนาไปมา
“นายเคยพาแฟนมาเคาว์ดาวน์มั๊ย”
“จะบ้าเหรอ เราไม่เคยมีแฟนเธอ เป็นแฟนคนแรกของเรา”
“เวอร์ๆ ไม่เชื่อหรอก”
“อ้าว ไม่เชื่ออีก เธอเป็นแฟนคนแรกของเราจริงๆ”
“จร้าๆ เชื่อแล้วจร้า แล้วเคยมาเคาว์ดาวน์ที่นี่มั๊ย”
“ไม่เคยครับ ปกติปีใหม่อยู่บ้านตลอดครับ ไม่เที่ยวไหน”
“เด็กดีจังนะนายเนี่ย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่หรอก แล้วเธอเคยพาแฟนมาเคาว์ดาวน์ที่นี่มั๊ย”
“แหนะ มีย้อนถามกลับด้วย ไม่เคยหรอกจร้า ปีก่อนเราเที่ยวกับครอบครัว”
ผมนั่งคุยกับเมล์นับนานนับชั่วโมงกว่า จนกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปถึงเวลา 23.50 น. เมล์จึงชวนผมกลับเข้าไปในงานบริเวณหอนาฬิกา
“อีก10 นาทีเท่านั้นนะคะ ขอเชิญผู้มาร่วมงาน เตรียมตัวนับถอยหลังต้อนรับปี 2554 กันค่ะ อีก10นาทีเท่านั้นครับ”
จนกระทั่งถึงเวลานับถอยหลังสู่ปีใหม่ ได้เวลานับถอยหลังกันแล้วครับท่านผู้มาร่วมงาน
10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 โป้ง ปรุ โป้ง ปรุ สวัสดีปีใหม่แล้ว
เมล์จับมือผมแน่นพร้อมบอกผมว่า “เราจะเป็นแฟนที่ดีของนาย เราจะไม่นอกใจเธอ อย่าทิ้งเราไปนะ เรารักนายจริงๆ”
“เราสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเมล์ไปมีคนอื่น เราจะไม่นอกใจเมล์ เราจะรักเมล์คนเดียว เมล์คือแฟนคนแรกของเรา รักเมล์นะครับ”
หลังจากงานเคาว์ดาวน์เลิก ผมก็แยกกับเมล์ ต่างคนต่างแยกกันกลับบ้าน
“เรากลับบ้านก่อนนะ แม่เราคงมารออยู่แล้ว ไปก่อนนะ บายๆ”
“ครับ ถึงบ้านแล้วเราโทรไปหานะครับ”
“ค่ะๆ”
จากนั้นผมก็แยกกับเมล์กลับบ้านและคืนนั้นเราก็คุยโทรศัพท์กันถึงตีสาม ก่อนจะวางสายแล้วแยกกันไปนอน
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้พบเมล์อีกเลย มีเพียงโทรศัพท์และแชทMSNกันเท่านี้ ปลังจากที่เปิดเทอมมา ทางโรงเรียนผมจัดการแข่งขันฟุตซอล ผมจึงต้องแข่งฟุตซอลและต้องซ้อมฟุตซอลติดต่อกันทุกวันและในตอนค่ำผมต้องทำงานเสริมอีก ทำให้ผมไม่ค่อยมีเวลาให้เมล์เท่าที่ควรไม่มีแม้แต่เมล์โทรหาเมล์ด้วยซ้ำ มีเพียงแต่แชทMSNตอนหลังเลิกเรียน ก่อนไปซ้อมฟุตซอลและส่งข้อความหาเมล์ก่อนนอนเท่านั้นเอง
จนกระทั่งวันที่ 13มกรา 54 เมล์พยายามโทรหาผมหลายครั้ง แต่ตัดสายเมล์ทิ้งถึง3ครั้ง เนื่องจากติดประชุม ทำให้ผมจำใจต้องตัดสายเมล์ทิ้ง ผมรู้ดีว่าผมทำแบบนี้มันจะทำให้เมล์เสียความรู้สึกเป็นอย่างมากแต่ผมก็ต้องจำใจตัดสาย เพราะ ตอนนี้เพื่อนๆที่ร่วมประชุม ต่างหันมองมาที่ผมเป็นสายเดียวกัน และในคืนนั้นเมล์ส่งข้อความมาบอกเลิกผม 13วันแห่งรักแรกของผมมับลงแบบรวดเร็วมาก ทำให้ทุกวันนี้ผมไม่กล้าตัดสายใครอีกแล้ว และผมรู้ข่าวว่า หลังจากที่เมล์เลิกกับผมได้ไม่นาน เมล์ก็มีแฟนใหม่ เป็นทอม แม้ผมจะตามง้อ ตามถามขอโทษ ตามขอคืนดี แต่เมล์ก็ไม่สนใจ ผมจึงต้องตัดใจเพื่อให้เมล์อยู่กับคนที่เขารัก 13 วันแห่งรักแรกของผมจบลงแบบเศร้ามาก หากถามว่าผมเสียใจมั๊ย ผมตอบได้แบบเต็มปากครับ ว่าเสียใจมาก แต่มันก็เป็นบทเรียนที่ดีดีที่สอนให้ผมรู้ถึง คำว่า “เป็นแฟนกันเหมือนไม่ใช่แฟน ก็ไม่รู้จะเป็นแฟนกันทำไม”
หลังจากที่ผมโดนเมล์บอกเลิก ผมสัญญากับตัวเองไว้ว่าผมจะไม่รักผู้หญิงคนไหนอีกแล้วตลอดช่วงชั้นม.ปลาย
เป็นชู้โดยไม่รู้ตัว
แต่แล้วโชคชะตากับเล่นตลก เมื่อ “ไอ้นะ” เพื่อนคู่ซี้ของผม มันดันไปจีบ “มีน” รุ่นน้องชั้น.5 โรงเรียนที่อยู่ข้างโรงเรียนที่พวกเราเรียนอยู่ พรหมลิลิตของโลกแห่งhi5 มันทำให้ไอ้นะเป็นเพื่อนกับมีน แต่ด้วยความที่ไอ้นะ มันเป็นคนที่หลงรักแต่ไม่กล้าบอก จึงต้องเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องช่วยมันอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผมเริ่มจากส่งคำขอแอด มีน เป็นเพื่อนในhi5 หลังจากที่มีนกดรับแอดhi5 แต่ในช่วงแรกๆผม ไม่ค่อยได้คุยกับมีนมากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้สอบ หลังสอบเสร็จ ช่วงปิดเทอมผมมีเวลาคุยกับมีนเต็มที่ แต่ด้วยความที่คุยกันบ่อย ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป จากที่คิดจะจีบให้เพื่อน กลายเป็นจะจีบซะเอง แต่ดูเหมือนสวรรค์จะเข้าข้างผม ภายในเวลาเดือนเศษๆ ผมกับมีนก็ตกลงคบกัน โดยที่ ไอ้นะ เพื่อนของผม มันก็ยินดีกับผมด้วย ไม่โกรธไม่เคืองผมเลยสักนิด วันที่2พ.ค.54 มีนนัดเจอผม ซึ่งมันเป็นอะไรที่พิเศษมากสำหรับผมที่ได้เจอตัวจริงของคนที่ผมกำลังจะเรียกว่าแฟน วันนั้นมีนัดผมไปเจอที่ขนส่งจังหวัด โดยวันนี้มีนไปทำใบขับขี่ มันเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้ใกล้ชิดกับมีน ผมตื่นแต่เช้า ตื่นขึ้นมาเพื่อล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำเพื่อไปหามีน เมื่อไปถึงขนส่งจังหวัดมีนยืนรอผมอยู่หน้าปากทางเข้าขนส่ง ทันทีที่ผมเห็นมีน ความคิดที่ผมคิดไว้มันก็หายไปเลย ผมคิดว่าในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่จะแต่งรูป แต่งหน้าให้สวยเพื่อตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ แต่มีนตัวจริงกับมีนในรูปโปรไฟล์นั้นไม่ต่างกันเลย
วันนั้นผมโคตรมีความสุขเลยก็ว่าได้ที่ได้อยู่กับมีนทั้งวัน แม้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนนอกจากขนส่งจังหวัด แต่มันก็เป็นวันหนึ่งที่ทำให้ผมมีความสุขเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการได้อยู่กับมีน
เมื่อเปิดเทอมมา ผมขึ้นเรียนม.6 มีนขึ้นเรียนม.5 ถึงเราจะอยู่คนล่ะโรงเรียนกัน แต่โรงเรียนเราก็ใกล้กันมาก ห่างกันไม่ถึง1กิโล ทำให้ทุกเช้าผมไปรับมีนจากจุดจอดรถประจำทางเพื่อไปส่งที่โรงเรียน แม้ว่าระยะทางมันเป็นแค่ระยะทางสั้นๆ แต่ผมก็มีความสุข ที่ได้อยู่กับมีนถึงจะเป็นพียงแค่เสี้ยววินาทีก็ตามและในตอนเย็นนั้นผมก็ไปหามีนที่จุดจอดรถประจำทาง ทำให้ผมมีเวลาได้คุยกับมีนประมาณ15-20นาที ส่วนในช่วงค่ำนั้นผมก็แชทเฟซบุ๊คกับมีนทุกคืนและในช่วงดึกผมก็โทรคุยโทรศัพท์กับมีนทุกคืน พูดได้ว่า แต่ละวันของผมที่คบกับมีนนั้นมันช่างโรเมนติกเหลือเกิน ทุกวันเสาร์มีนมาเรียนพิเศษที่ในเมือง ผมต้องไปรับมีนที่คิวรถตู้เพื่อมาส่งที่เรียนพิเศษและหลังจากมีนเรียนพิเศษเสร็จ ผมก็มารอรับมีน มีนชวนผมไปเดินห้าง พูดได้ว่าวันเสาร์เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดที่ผมเลยก็ว่าได้ หลังจากเที่ยวห้างเสร็จก็ก็ไปส่งมีนที่คิวรถตู้ ผมทำแบบนี้ทุกเสาร์
จนอยู่มาวันเสาร์หนึ่ง มีนสั่งห้ามผมไม่ให้ไปรับ เพราะ มีนบอกผมว่าพ่อมีนมารีบมาส่ง แต่ด้วยความรัก ด้วยความอยากเห็นหน้ามีน ผมจึงไปหามีนที่เรียนพิเศษ โดยไม่สนใจคำสั่งห้ามของมีน ผมไปรอมีนก่อนมาเวลาที่มีนจะเรียนพิเศษ ทันทีที่มีนมาถึงผมก็รู้ทันทีว่าคนที่มาส่งมีนนั้นไม่ใช่พ่อมีน แต่เป็นแฟนมีน แฟนคนที่มีนบอกผมว่าเลิกกันไปแล้ว และในคืนนั้นมีนโทรมาอธิบายทุกอย่างให้ผมฟัง มีนบอกผมว่าเขาคือแฟนมีนและที่ผ่านมา มีนกับเขาแค่ห่างๆกัน เนื่องจากเขาติดยาม้า เขาจึงถูกกักตัวไปบำบัด ไม่ได้เลิกกับมีนที มีนอยากให้ผมตัดใจเพราะมีนรักแฟนเขามาก แต่ด้วยความรักผมยืนยันที่จะรักมีต่อไป แม้อาจจะต้องรักมีนฝ่ายเดียวผมก็ยอม สรุปได้ว่าที่ผ่านมา ผมกลายเป็นชู้โดยที่ไม่รู้ตัว
จนกระทั่งมีการแข่งขันฟุตบอล7คน เป็นฟุตบอลรายการโอเพ่น โรงเรียนที่มีนเรียนอยู่เป็นเจ้าภาพจัการแข่งขัน ซึ่งทีมผม(ทีมทานตะวัน)ต้องเจอกับทีมบ้านโพธิ์ ซิตี้ (ซึ่งเป็นทีมแฟนมีน) ก่อนเกมส์การแข่งขัน พอผมรู้ว่าแฟนมีนอยู่ในทีมคู่แข่งด้วย ผมแทบไม่อยากเล่น ไม่อยากลงแข่งขัน ตลอดระยะเวลาการแข่งขันผมไม่มีจิตใจที่จะเล่นบอล เนื่องจากมีนมาเชียร์ทีมแฟนมีนด้วย ผมขอถอนตัวจากการแข่งขันฟุตบอลในนัดนี้ แต่ทางโค้ชไม่อนุญาตพร้อมกับสั่งให้ผมลงไปวอร์มเตรียมลงแข่งขันในตำแหน่งผู้รักษาประตู เมื่อเกมส์การแข่งขันเริ่มขึ้น ทีมบ้านโพธิ์ ซิตี้ บุกใส่ทีมเราอย่างหนัก โดยผมต้องเหนื่อยกว่าคนอื่นเนื่องจากต้องป้องกันลูกยิงประตูและไม่ยอมให้แฟนมีนยิงประตูผมเด็ดขาด จนจบครึ่งเวลาแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 เริ่มครึ่งหลัง ทีมผมก็เสียประตูเลย แฟนมีนลากบอลเลี้ยงหลบผู้เล่นทีมผมถึง2คน จนมาถึงหน้าประตู ก่อนจะจ่ายให้เพื่อนเขาที่วิ่งมาเติมและยิงเข้าประตูไปในที่สุด ผมหมดปัญญาเซฟลูกนั้นจริงๆ
จนจบเวลาการแข่งขัน ทีมผมพ่ายต่อทีมบ้านโพธิ์ ซิตี้ ไปอย่างน่าเสียดาย 0 ประตูต่อ 1 หลังจากการแข่งขันจบลงผมบอกเพื่อนร่วมทีมว่า ผมขอถอนตัวออกจากทีม เนื่องจาก สภาพจิตใจผมไม่พร้อมที่จะเล่นฟุตบอลอีกแล้ว เพื่อผมมันก็เข้าใจและไม่ขัดขวางผมแต่อย่างใด พร้อมกับให้กำลังใจผม พร้อมกับบอกว่า “ทีมพร้อมรับผมเสมอ หากพร้อมก็กลับมาเล่น”
หลังจากนั้น ผมก็กลับบ้านทันที โดยไม่อยู่รอมีน แสดงความดีใจกับแฟนเขา หลังจากวันนั้นผมก็ไม่พบมีนอีกเลยและการอกหักในครั้งนี้มีผลต่อผมในหลายๆด้าน ทั้งด้านการเรียน ด้านสภาพจิตใจและผมเป็นคนที่เก็บตัว ไม่ค่อยเข้าสังคม
จนผมต้องเจอแฟนมีนอีกครั้งในนามคู่แข่งวงดนตรี ณ ลานเวทีแสดงคอนเสิร์ตกลางห้างสรรพสินค้า วงผมกับวงแฟนมีน ผ่านเข้ารอบชิง วงเราต้องแข่งกันเพื่อคว้าชัยชนะพร้อมเงินรางวัล 5000 บาท เมื่อวงของแฟนมีนขึ้นเล่น วงผมที่นั่งรอกันอยู่ประกอบไอ้นะ ไอ้ไนท์และผม ซึ่งในตอนนี้สภาพจิตผมแย่มาก ไม่พร้อมที่จะขึ้นเล่น แต่ผมจำใจขึ้นเล่น เพราะวงผมมีกันแค่3คน ประกอบด้วยไอ้ไนท์ ร้องนำและเล่นกีต้าร์ ไอ้นะ ตีกลองและผมเล่นเบส หลังจากที่วงแฟนมีนเล่นจบลง วงผมก็ขึ้นเล่นต่อ ซึ่งเพลงที่เราเล่นคือเพลง ฉันรักเธอเด้ เป็นเพลงที่วงเราแต่งขึ้น เพื่อสื่อความหมายถึงการแอบรักคนมีเจ้าของ โดยเพลงนี้ไอ้ไนท์เป็นคนแต่งให้ผมโดยเฉพาะ เมื่อพวกเราบรรเลงดนตรีขึ้น ไอ้ไนท์ก็เริ่มร้องเพลง ....
ใจบอกว่ารัก แต่ปากมันไม่กล้าบอก เลยถามเพื่อหวังคำตอบ ว่าเธอรักฉันหม้าย ฉันรักเธอเด้ อยากบอกว่ารักเธอเด้ เลยถามเธอไปอย่างนี้ ว่าเธอรักฉันหม้าย รักอีตายเลยอยากได้เธอมาควงแขน ชอบอีตายเลยอยากได้เธอมาเป็นแฟน น้องสาวเห้อ คนสวยเห้อ รักเธอ ฉันรักเธอ ที่สุดเลย
------------------------------------------------------------SOLO------------------------------------------------------------
ฉันรักเธอเด้ อยากบอกว่าชอบเธอเด้ เลยถามเธอไปอย่างนี้ ว่าเธอรับรักฉันแล้วหม้าย รักอีตายเลยอยากได้เธอมาควงแขน ชอบอีตายเลยอยากได้เธอมาเป็นแฟน แต่ก็ทำแทนแฟนเธอไม่ได้ ฉันรักเธอเด้ อยากบอกว่ารักเธอเด้ อยากบอกว่าชอบเธอเด้ น้องสาวเห้อ คนสวยเห้อ รักเธอ ฉันรักเธอ ที่สุดเลย
หลังจากที่เราเล่นเพลง ฉันรักเธอเด้ จบลง ไอไนท์ก็เตรียมพร้อมที่เล่นเล่นเพลงต่อไป
“เพลงต่อไปนะครับ เป็นเพลงช้าๆ ซึ้งๆ ผมอยากบอกคนฟังว่า ผู้ชายถ้ามันรักใครไปแล้วมันรักจริง เพลงนี้ผมแต่งให้เพื่อนผมคนนี้ครับ ชิกเก้น มือเบสวงผมนะครับ มันเพิ่งถูกบอกมานะครับ ผมเลยแต่งเพลงนี้ขึ้นครับ เพลงคนอ้อร้อ เชิญรับฟังได้เลยครับ”
ฉันนั้นรักเธอเหลือเกิน แล้วทำไมเธอถึงทำกับฉันได้ เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมดีทุกอย่าง ในใจของฉันมีแต่เธอ น้องร้ายกาส รู้บ้างไหม หัวใจชายต้องช้ำเพราะเธอ ไม่ว่าใครได้เจอะเจอ ต้องหลงเสน่ห์เธอทุกคนเลย เพราะเธอตอแหลได้แนบเนียน เธอทำให้ฉันนั้นตายใจ เธอโกหกฉันใช่ไหมว่ารักกัน เธอเป็นผู้หญิงสองใจ เธอเป็นปลาสองน้ำ เธอเป็นหมาสองราง คบไม่ได้ โว่ โว่ โว่ โอ โอ โอ้
--------------------------------------------------------SOLO----------------------------------------------------------------
พอกันทีกับคำหวานๆจากปากเธอ จบกันทีกับคำว่ารักฉันไม่ได้ เลิกสักทีกับผู้หญิงที่หลายใจ ไปให้ไกลได้ไหมฉันขอร้อง เพราะเธอตอแหลได้แนบเนียน เธอทำให้ฉันนั้นตายใจ เธอโกหกฉันใช่ไหมว่ารักกัน เธอเป็นผู้หญิงสองใจ เธอเป็นปลาสองน้ำ เธอเป็นหมาสองราง คบไม่ได้ คนอ้อร้อ
“ก็จบลงไปแล้วนะครับกับเพลง คนอ้อร้อ ผมเชื่อเหลือเกินว่าคงจะโดนใจใครๆหลายๆคน เพลงต่อไปเพลงสุดท้ายนะครับ ผมจะไม่ร้อง แต่ผมจะให้ ชิกเก้นมือเบส ออกมาร้องเองนะครับกับเพลง เป็นชู้ไม่รู้ตัว”
ตอนนั้นใจผมเล่นแรงมากทั้งการกล้าๆกลัวๆ เพราะไม่เคยร้องเพลงเวทีใหญ่มาก่อน อีกทั้งมีนก็ดูอยู่ด้วย แต่เพื่อวง ผมไม่อยากทำให้เพื่อนในทีมต้องผิดหวัง ผมเลยต้องเพลงออกมาพร้อมกับเล่นเบสขณะร้องเพลง โดยน้ำตาก็เริ่มไหลออก
หลอกกันใช่ไหม เธอนั้นมีแฟนอยู่แล้วใช่ไหม ตกลงว่าเขาคนนั้น นั้นมาก่อนฉันใช่ไหม ต้องกลายเป็นชู้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป
จะอยู่ส่วนไหน ในหัวใจเธอบอกที จริงใจบ้างไหม คนรักคนหนึ่งอยากถามสักนิด ว่าเธอนั้นคิดจริงจังกับฉัน แค่ไหนหรือเธอ
หรือว่าแค่เผลอชั่วครั้งชั่วคราวผ่านไป ห่วงกันบ้างไหม ฉันรักเธอโดยไม่รู้ ต้องกลายเป็นชู้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป
หวงก็ไม่ได้ ตัวก็ห่างไกล ใคร ใครก็ว่าเลว ขอเพียงแค่รักสักนิด ชีวิตฉันยอมตกเหว ไม่ตั้งใจเลวก็เพียงได้รู้ว่าเธอมีใคร
จริงใจบ้างไหม คนรักคนหนึ่งอยากถามสักนิด ว่าเธอนั้นคิดจริงจังกับฉัน บ้างไหมหรือเธอ หรือว่าแค่เผลอชั่วครั้งชั่วคราวผ่านไป ห่วงกันบ้างไหม ฉันรักเธอโดยไม่รู้ ต้องกลายเป็นชู้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป หวงก็ไม่ได้ ตัวก็ห่างไกล ใคร ใครก็ว่าเลว ขอเพียงแค่รักสักนิด ชีวิตฉันยอมตกเหว ไม่ตั้งใจเลวก็เพียงได้รู้ว่าเธอมีใคร ยอมฉันยอมเป็นทาสรักเธอต่อไป ยอมทั้งใจก็ฉันรักเธอ ต้องกลายเป็นชู้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป หวงก็ไม่ได้ ตัวก็ห่างไกล ใคร ใครก็ว่าเลว ขอเพียงแค่รักสักนิด ชีวิตฉันยอมตกเหว ไม่ตั้งใจเลวก็เพียงได้รู้ว่าเธอมีใคร ไม่ตั้งใจเลว ก็เพียงแค่รักเธอทั้งหัวใจ
หลังจากที่วงพวกเราเล่นเสร็จ ด้านกรรมการก็รวบรวมคะแนน ก่อนจะเรียกวงแฟนมีนขึ้นไปบนเวทีพร้อมเรียกวงผมด้วย ก่อนที่กรรมการจะประกาศให้วงของแฟนมีน เป็นวงที่ได้รับราลวัลชนะเลิศไป
“ก็ได้วงดนตรีผู้ชนะเลิศพร้อมเงินรางวัล5000บาท ส่วนอีกวงก็ไม่ต้องเสียใจนะครับ เรามีเงินรางวัล3000บาท เป็นรางวัลปลอบใจครับและมีรางวัลพิเศษเป็นรางวัลคะแนนโหวตจากผู้ฟัง พร้อมเงินรางวัลอีก2000บาท โดยเกณฑ์การตัดสินจะเป็นการนับจากการยกมือของผู้ฟัง ผู้ฟังยกมือให้วงไหนมากกว่า วงนั้นจะเป็นคงที่ได้รางวัลโหวตจากผู้ฟังนะครับ”
ผมเห็นมีนยกมือโหวตวงแฟนเค้า แม้ผมจะรู้สึกผิดหวังและเสียใจ แต่มันก็เป็นโอกาสดีที่ผมได้รู้ว่ามีนรักแฟนเขามากแค่ไหนและมันคงถึงเวลาที่ผมต้องตัดใจจากมีน
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อผู้ฟังยกมือโหวตให้วงผมเป็นวงขวัญใจผู้ฟังและวงเราได้รับรางวัลคะแนนโหวตจากผู้ฟังไป หลังจากเสร็จสิ้นการประกวดวงดนตรี มีนมาหาผมหลังเวที พร้อมกับขอโทษในทุกๆอย่าง
“เราขอโทษนะกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราผิดเองที่เผลอใจไปรักนาย ตัดใจจากเราเถอะนะ เรารักนายไม่ได้จริงๆ”
“เรารักเธอจริงๆนะมีน เรารักกันไม่ได้เหรอ ?”
“ไม่ได้หรอก เรามีแฟนอยู่แล้ว เราไม่อยากนอกใจแฟน ตอนนี้เรารักแฟนเราคนเดียว”
ผมพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว นอกจากมีน้ำที่ไหลออกมาไม่หยุด
“ถึงเป็นแฟนกันไม่ได้ แต่เราก็เป็นพี่น้องกันได้นะ รักในวัยเรียนก็เหมือนจุดเทียนกลางสายฝยไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ตัดใจจากเราเถอะนะ ผู้หญิงที่ดีกว่าเรายังมีอีกเยอะ”
“เราจะไม่รักผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว เราผิดหวัง เสียใจ มาสองครั้งติดต่อกันแล้ว เราคงไม่รักใครอีกแล้วแหละ”
“เราว่าบางทีผู้หญิงที่มชื่อเล่นขึ้นต้นด้วย ม.ม้า ไม่เหมาะกับนายหรอก ต่อไปถ้าจะจีบใคร อย่าจีบผู้หญิงที่ขึ้นต้นด้วย ม.ม้า อีกล่ะ ไปก่อนนะ แฟนเรารอนานแล้ว เราไม่โกรธ ไม่ได้เกลียดอะไรนายเลยนะ อยากคุยกับเราก็โทรหาเราได้เสมอ ไปแล้วนะ บาย”
หลังจากวันนั้น ผมก็ใช้ชีวิตแบบไร้ค่าไปกว่า8เดือน ไม่ขยันเรียนเหมือนที่ผ่านมา เลิกเล่นบอล เลิกเล่นดนตรี ใช้ชีวิตหายใจทิ้งไปวันๆเท่านั้นเอง โดยในใจยังหวังว่าสักวัน มีน คงจะกลับมาหาผม เพราะ ผมคิดว่า มีน คือ คู่ชีวิตของผม ถ้า มีน เป็นเนื้อคู่ผมจริง สักวันมีนต้องกลับมาหาผม ทุกวันนี้ผมยังรอมีนอยู่ แม้ว่าอาจเป็นการรักฝ่ายเดียวก็ตาม
ผลงานอื่นๆ ของ NaiMuangTrang ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ NaiMuangTrang
ความคิดเห็น